อัฐิส่วนที่นำไป ลอยอังคาร

การเก็บอัฐิ

ในพิธีการเก็บอัฐินั้น นิยมจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ไว้ให้พรักพร้อมก่อนถึงเวลา คือ

  1. โกศสำหรับใส่อัฐิ

  2. ลุ้งหรือหีบไม้ สำหรับใส่อัฐิและอังคารที่เหลือ

  3. ผ้าขาวสำหรับห่อ ลุ้งหรือหีบไม้

  4. ผ้าสำหรับทอดบังสุกุล ก่อนเก็บอัฐิ

  5. อาหารคาวหวานสำหรับถวายพระสงฆ์

  6. นิมนต์พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุลก่อนเก็บอัฐิ

การกำหนดเวลาเก็บอัฐินั้น นิยมปฏิบัติกันโดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ

  1. ทำพิธีเก็บอัฐิในตอนเย็นวันเผานั้น นิยมปฏิบัติในงานพระราชทานเพลิงศพ หรืองานฌาปนกิจศพที่จัดให้มีการทำบุญฉลองอัฐิติดต่อกันไปจากงานเผาศพ เพื่อให้แล้วเสร็จภายในวันเผานั้น เลยทีเดียว

  2. ทำพิธีเก็บอัฐิในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นนั้น นิยมปฏิบัติในงานเผาศพที่เจ้าภาพมีความประสงค์จะบำเพ็ญกุศลทำบุญอัฐิในวันรุ่งขึ้น และนิยมจัดสิ่งของถวายพระเป็นสามหาบ ในหาบหนึ่ง ๆ ใส่หม้อข้าว เชิงกรานหรืออั้งโล่ ข้าวสาร พริก หอม กระเทียม กะปิ น้ำปลา ฯลฯ ในสาแหรกข้างหนึ่ง และใส่อาหารคาวหวาน ในสาแหรกอีกข้างหนึ่ง จัดเหมือนกันทั้งสามหาบ ใช้สีขาวทาทั้งไม้คานและสาแหรก ให้ลูกหลานหรือญาติ 3 คน แต่งกายชุดขาวเป็นผู้หาบคนละหาบและจัดคนถือผ้าไตรจีวรเดินนำหน้าอีกหาบละคน ให้เดินเวียนซ้ายรอบเมรุ หรือกองฟอน 3 รอบ ขณะเดินก็ร้องกู่กันเหมือนชาวป่าว่า “วู้ ๆ ๆ” คนละ 3 ครั้ง เมื่อคนข้างหน้ากู่แล้วคนข้างหลังต้องกู่รับกัน (การเดินเวียนรอบเมรุหรือกองฟอน 3 รอบ เปรียบเหมือนสัตว์ทั้งหลายที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้ง 3 คือ กามภพ รูปภพ และ อรูปภพ ที่กู่เรียกว่า วู้ ๆ ๆ 3 ครั้งนั้น แสดงว่าไม่รู้ว่าผู้ตายไปเกิดในภพไหน จึงได้กู่เรียกเพื่อให้รู้ว่าได้อุทิศส่วนบุญไปให้แล้ว) เสร็จแล้วนำหาบสิ่งของไปตั้งเรียงไว้ที่อาสน์สงฆ์ เจ้าภาพนำเอาผ้าไตรจีวรไปทอดที่กองอัฐินิมนต์พระสงฆ์ 3 รูป พิจารณาผ้าบังสุกุลเสร็จแล้วถวายสิ่งของสามหาบ พระสงฆ์อนุโมทนาเจ้าภาพกรวดน้ำอุทิศกุศลให้ผู้ตาย พิธีอย่างนี้เรียกว่า “พิธีสามหาบ” ในปัจจุบันพิธีสามหาบมีจัดน้อยลง แต่นิยมจัดอาหารใส่ปิ่นโตถวายพระแทน เพราะไม่ยุ่งยาก สะดวกต่อการปฏิบัติในการเก็บอัฐินั้น สัปเหร่อนิยมทำพิธีแปรธาตุ คือนำเอาอัฐิของผู้ตายที่เผาแล้วมาวางเป็นรูปร่างคน โดยวางโครงร่างให้หันหัวไปทางทิศตะวันตก แล้วนิมนต์พระสงฆ์ให้พิจารณาบังสุกุลตายก่อน แล้วแปรธาตุโครงร่างกระดูกให้หันหัวไปทางทิศตะวันออก แล้วนิมนต์พระสงฆ์ให้พิจารณาบังสุกุลเป็นอีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นจึงให้เจ้าภาพเก็บอัฐิใส่โกศจนพอแก่ความต้องการ โดยเลือกเก็บอัฐิจากส่วนแห่งร่างกาย 6 แห่ง คือ

  3. กระดูกกะโหลกศีรษะ 1 ชิ้น

  4. กระดูกซี่โครงหน้าอก 1 ชิ้น

  5. กระดูกแขนทั้งสองข้าง 2 ชิ้น

  6. กระดูกขาทั้งสองข้าง 2 ชิ้น

ส่วนอัฐิที่เหลือรวมทั้งอังคาร (ขี้เถ้า) ทั้งหมดนิยมกวาดรวมเก็บใส่ลุ้งหรือหีบไม้ แล้วเอาผ้าขาวห่อเก็บไว้ นำไปบรรจุในที่อันเหมาะสม หรือนำไปลอยในทะเล หรือลอยอังคารนั่นเอง และในปัจจุบันบริเวณอ่าวสัตหีบ หน้ากองเรือยุทธการ ของกองทัพเรือ เราได้มีบริการเรือลอยอังคาร ไว้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กำลังพลทหารเรือ และประชาชนทั่วไปในราคาสวัสดิการ บริเวณหาดแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

โทร.033-147689

มือถือ 095-7233739